anitech x PEANUTS บุกตลาดวัยทีนด้วย Character Marketing

Character Marketing ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ดีกับการขยายฐานผู้บริโภคไปยังคนกลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบหรือเป็นสาวกของ Character นั้นๆ ล่าสุด “แอนิเทค” ผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และ ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ทุ่มงบการตลาดกว่า 20 ล้านบาทดึงคาแร็กเตอร์สนู้ปปี้มาใช้กับแคมเปญใหม่ “anitech x PEANUTS เปิดตัว Collection Snoopy ซึ่งถือเป็นครั้งแรกกับการคอลแลปส์ระหว่างแบรนด์ “แอนิเทค” กับ คาแร็กเตอร์สุดอมตะของแก๊ง PEANUTS ตั้งเป้าขยายกลุ่มเป้าหมายในกลุ่มวัยรุ่น เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์ในทุกผลิตภัณฑ์ของ “แอนิเทค”  ซึ่งนับเป็นการกลับมาทำตลาดอย่างจริงจังอีกครั้งหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มผ่อนคลาย

สนูปปี้และผองเพื่อน PEANUTS ถือเป็นการ์ตูนอมตะซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกกว่า 70 ปี และเข้าถึงกลุ่มคนค่อนข้างกว้างไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่เมื่อพูดถึงตัวการ์ตูนอย่างสนูปปี้ทุกคนจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี การร่วมมือกันในครั้งนี้ “แอนิเทค” จึงมองถึงการยกระดับแบรนด์ “แอนิเทค” อีกขั้น กับการเป็นแบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ถือลิขสิทธิ์ PEANUTS ในประเทศไทย พร้อมสร้างประสบการณ์ความตื่นเต้น สนุกสนาน ในการใช้สินค้าให้มากขึ้น โดย “แอนิเทค” จะใช้ สนูปปี้และผองเพื่อน PEANUTS หลังจากนี้ไปจนถึงปี 2024

“ตอนนี้เรากำลัง Turn ไปสู่การเป็น Tech Company เต็มรูปแบบจากเดิมจะเห็นว่าเราเน้นสินค้าที่เป็นฮารด์แวร์ แต่ตอนนี้เรามีการทำเรื่องของซอฟต์แวร์เพิ่มมากขึ้นอย่างที่เห็นว่าเราเพิ่งเปิดตัว Metaverse ที่เข้าไปสนับสนุนเรื่องของการศึกษาและเราขยายแผนกที่ทำเรื่องของซอฟต์แวร์ด้วย เราต้องการให้ฮารด์แวร์และซอฟต์แวร์เดินไปคู่กัน ในส่วนของฮารด์แวร์ที่ผ่านมาเรามีสินค้ามากว่า 10 ปีแล้ว ปีหนึ่งเราจำหน่ายสินค้า 2 ล้านกว่าชิ้น ดังนั้นเรื่องของการมองหารูปแบบใหม่ๆ ในการนำเสนอสินค้าของเราไปสู่คนกลุ่มใหม่จึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งหนึ่งในกลยุทธ์ที่เรามองก็คือเรื่องของ Character Marketing เราต้องการให้สนูปปี้เป็นตัวแทนของเราในการสื่อสารแบรนด์ไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่รวมถึงความเป็นอินเตอร์เนชั่นนัลนี่คือ New S-curve ของเราคือการก้าวไปสู่ความเป็นสากล เรามองว่าแบรนด์ที่จะไปสู่สากลได้ต้องเป็นแชมเปี้ยนในโลคอลก่อนแล้ววันหนึ่งก็ขยายไปต่างประเทศ ” คุณโธมัส-พิชเยนทร์ หงษ์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สมาร์ท ไอดี กรุ๊ป จำกัด  กล่าวถึงการเปิดตัวแคมเปญ “anitech x PEANUTS และ Collection Snoopy สุดคิวท์”


ปัจจุบันธุรกิจของ “แอนิเทค” แบ่งเป็น 5 กลุ่มคือ Computer Devices สินค้าจำพวกเม้าส์ คีย์บอร์ด หูฟังเป็นต้น มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30% Home Devices สินค้าประเภทปลั๊กไฟ สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30%  Home Appliances เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30% และโปรดักส์ Health & Hygiene ในชื่อแบรนด์ Lab+ Series กับกลุ่ม Gaming อุปกรณ์เล่นเกมส์ต่างๆ สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 10%


โดยสินค้าคอลเลคชั่น anitech x PEANUTS แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Computer Accessories, Home Devices และ Home Applilances ประกอบไปด้วย ปลั๊กไฟฟ้ารุ่น SNP-H3434, SNP-H233, SNP-H9022, เมาส์ไวเลสไร้สาย 2.4 G และเมาส์ชนิดมีสายที่สัมผัสเบาสบายมือ, แผ่นรองเมาส์ สัมผัสพื้นผิวการใช้ที่ลื่นไหลมาพร้อมกับยางกันลื่น, ชุดคีย์บอร์ด และเมาส์ แบบไวเลส SNP-PA807 มีทั้งสีขาวและสีดำ, กระทะไฟฟ้าอเนกประสงค์ SNP-SMC1009, หม้อต้มน้ำอเนกประสงค์ SNP-SMK60 และกาต้มน้ำไฟฟ้า SNP-SK109 ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับแพ็กเกจจิ้งดีไซน์พิเศษลายสนูปปี้

 


“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทมุ่งเน้นทั้งด้านดีไซน์ รวมไปถึงคุณภาพและการรับประกันสินค้าตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ว่า เราจะเป็นองค์กรที่มีส่วนในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และมีอายุยาวนานเกินร้อยปี โดยเราตั้งใจและมุ่งเน้นให้สินค้าเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเชื่อมต่อทุกเจนเนอเรชั่นของคนในครอบครัว ทุกๆ สินค้าภายใต้แบรนด์แอนิเทคเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์กับทุกเพศทุกวัย ทั้งโปรดักต์ที่เกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ปลั๊กไฟ  คีย์บอร์ด  เมาส์  เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ฯลฯ  รวมไปถึง โปรดักต์ Health & Hygiene ของ Lab+ Series ที่อยู่ภายใต้แบรนด์แอนิเทค ความร่วมมือกับ PEANUTS ในครั้งนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าให้กว้างและลึกมากขึ้น โดยเน้นไปที่กลุ่มนิวเจนเนอเรชั่นที่มีความชื่นชอบสินค้าที่มีความสดใสน่ารัก ไม่ใช่เพียงเฉพาะกลุ่มแฟนคลับของ PEANUTS เท่านั้น แต่สนูปปี้ยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัยทั่วโลก ทำให้ผู้ใช้สินค้ามีอารมณ์ร่วมกับความน่ารักและตัดสินใจซื้อได้ในเวลาอันสั้นกับราคาที่สามารถจับต้องได้ ซึ่งเป้าหมายของแคมเปญนี้เราต้องการให้สินค้า anitech x PEANUTS ให้เข้าไปอยู่ในใจทุกคน ตามสโลแกนของแบรนด์ ผู้นำนวัตกรรมความสุขสู่ชีวิต หรือ Bring Happiness to Life” คุณโธมัส กล่าวปิดท้าย